1. ท่านคิดอย่างไร ถ้ารัฐธรรมนูญคือกฎหมายแม่บท และพระราชบัญญัติน่าจะเป็นอะไร จงอธิบายให้เหตุผล
รัฐธรรมนูญ (Constitution) คือ กฎหมายสูงสุด ( Supreme Law ) และเป็นกฎหมายขั้นมูลฐาน ( Fundamental Law ) ของประเทศ ถ้ารัฐธรรมนูญคือกฎหมายแม่บท ดังนั้นพระราชบัญญัติเป็นกฏหมายที่มีลำดับลองจากกฏหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งฏหมายที่มีลำดับรองจากรัฐธรรมนูญนั่นประกอบด้วยกฎหมาย 3 อย่าง คือ 1 ประมวลกฎหมาย 2 พระราชบัญญัติ 3 พระราชกำหนด ซึ่งกฎหมายสามอย่างนี้มีศักเท่าเทียมกัน
2. ความมุ่งหมายในการจัดการศึกษากำหนดไว้อย่างไรบ้าง จงอธิบาย
การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
3. หลักในการจัดการศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย
1. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
2. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
3. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
4. หลักในการจัดระบบ โครงสร้าง และกระบวนการจัดการศึกษา ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายฉบับนี้มีอะไรบ้าง จงอธิบาย
1. มีเอกภาพด้านนโยบาย และมีความหลากหลายในการปฏิบัติ
2. มีการกระจายอำนาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา และองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น
3. มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา
4. มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครูคณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา และ
การพัฒนาครูคณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
5. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ มาใช้ในการจัดการศึกษา
6. การมีส่วนร่วมของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น
5.
สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษาที่กำหนดไว้ในกฎหมายฉบับนี้มีอะไรบ้าง จงอธิบาย
การจัดการศึกษา ต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย
6.
ระบบการศึกษาของไทยในปัจจุบันนี้มีกี่ระบบอะไรบ้าง จงอธิบาย
การจัดการศึกษามีสามรูปแบบ คือ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
1. การศึกษาในระบบ เป็นการศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตรระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
2. การศึกษานอกระบบ เป็นการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของการสำเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคลแต่ละกลุ่ม
3. การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์สังคม สภาพแวดล้อม สื่อ
หรือแหล่งความรู้อื่น ๆ
7.
ท่านสามารถนำแนวการจัดการศึกษา
ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายฉบับนี้ไปสู่การปฏิบัติได้อย่างไร
สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับบุคคล และโอกาส และเป็นส่วนช่วยในการจัดการศึกษาที่เหมาะสมกับผู้เรียน ให้สังคมมีส่วนร่วม และมีการพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ
8.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 3
มีประเด็นใดบ้างและเหตุผลที่สำคัญในการแก้ไขคืออะไร
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
9.
การที่กฎหมายกำหนดให้สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานมีฐานะเป็นนิติบุคคลท่านเห็นด้วยหรือไม่
เพราะเหตุใด
เห็นด้วย เนื่องจากถ้าแต่ละสถานศึกษาจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานมีฐานะเป็นนิติบุคคล ก็จะทำให้แต่ละสถานศึกษามีอิสระในการจัดการศึกษาที่เหมาะสมกับผู้เรียน สถานศึกษา ชุมชน และเหมาะสมกับทรัพยากรที่แต่ละสถานศึกษามีอยู่
10. การที่กฎหมายกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
มีสิทธิจัดการศึกษาในระดับใด ระดับหนึ่ง หรือทุกระดับตามความพร้อม
ท่านเห็นด้วยหรือไม่ เพราะเหตุใด
เห็นด้วย เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละที่ก็จะมีทรัพยากรที่แตกต่างกัน ที่จะสามารถจัดการศึกษาที่มีคุณภาพได้ และสามารถจัดให้เหมาะสมกับผู้เรียนในท้องถิ่นได้
11.
หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย
"การประเมินคุณภาพภายใน” หมายความว่า การประเมินคุณภาพการจัดการศึกษา การติดตาม และการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนดสำหรับการประกันคุณภาพภายใน ซึ่งกระทำโดยบุคลากรของสถานศึกษานั้นหรือโดยหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษา
12.
การที่กฎหมายกำหนดให้ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา
และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ทั้งรัฐและเอกชน ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ
ท่านเห็นด้วยหรือไม่ เพราะเหตุใด
เห็นด้วย เนื่องจากว่าการที่ ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ทั้งรัฐและเอกชน ที่่มีใบประกอบวิชาชีีพจะแสดงให้เห็นว่า บุคคลเหล่านี้มีความรู้ ความสามารถจริงในสาขาที่เขาทำงานและสามารถเชื่อถือได้
13. ท่านมีแนวทางในการระดมทุน
และทรัพยากรเพื่อการศึกษาในท้องถิ่นของท่านอย่างไรบ้าง
จัดตั้งโครงการขึ้นในชุมชน 1
โครงการ โดยมีสมาชิกที่มาจากโรงเรียน ชุมชน
และบุคลากรในท้องถิ่นเพื่อร่วมกันจัดตั้งโครงการ
เพื่อที่จะช่วยพัฒนาการศึกษาของนักเรียนในท้องถิ่น เช่น “โครงการหนังสือมือสองสู่น้อง”
เป็นการที่ให้สมาชิกในท้องถิ่นร่วมกันบริจาคหนังสือให้กับรงเรียนที่ขาดแคลนทรัพยากรในด้านนี้
เพื่อให้นักเรียนได้มีหนังสืออ่านเพิ่มพูนความรู้
การระดมทุนอาจจะไม่ใช่แค่เงินเพียงอย่างเดียว อาจจะรวมไปถึงหนังสือ
หรืออุปกรณ์การเรียนต่างๆด้วย
14.
ท่านมีแนวทางในการพัฒนาสื่อ เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างไรบ้าง จงอธิบาย
ปัจจุบันมีการใช้สื่่อทางการศึกษากันอย่างแพร่หลาย และก็มีสื่อทีเกี่ยวกับการศึกษามากมายด้วยเช่นกัน การที่เราจะพัฒนาสื่อทางการศึกษาต้องคำนึงถึงว่าเราจะใช้กับผู้เรียนแบบไหนและผู้เรียนกลุ่มใด ถ้าเป็นผู้เรียนในระดับชั้นเล็กๆ เช่น ระดับประถมศึกษา การเลือกใช้สื่อก็ไม่ควรเน้นเนื้อหาสาระและเป็นนวิชาการมากเกินไป แต่ถ้าเป็นผู้เรียนในระดับสูงขึ้นก็สามารถใช้สื่อที่เป็นวิชาการและเน้นเนื้อหาสาระได้ การพัฒนาสื่อก็ควรจะให้เหมาะสมกับผู้เรียนในระดับต่างๆด้วย